สืบเนื่องจากกลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. หรือ TICAC ได้รับแจ้งเบาะแสการกระทำผิดจากมูลนิธิ Our Rescue หรือ OUR ว่าพบการโฆษณาชักชวนเข้ากลุ่มลับในแอปพลิเคชันไลน์ ชื่อกลุ่ม “กลุ่ม .งง คับ” ซึ่งมีสมาชิกภายในกลุ่ม ณ วันตรวจพบ จำนวน 363 บัญชี ได้นำเข้าสื่อลามกอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี จำนวนหลายไฟล์ลงในไลน์กลุ่ม
นอกจากนี้ แอดมินของกลุ่มยังแจ้งอีกว่า ยังมีกลุ่มลับอีกหลายกลุ่มให้สมาชิกเลือก ซึ่งค่าสมัครสมาชิกของแต่ละกลุ่มมีราคาที่แตกต่างกันไป หากสนใจเข้าเป็นสมาชิกกลุ่มใด สามารถโอนเงินแล้วส่งหลักฐานการโอนเงินให้แอดมิน จากนั้นแอดมินจะเชิญเข้ากลุ่มลับ
กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. ได้สืบสวนจนทราบว่า ผู้กระทำผิดทำงานเป็น รปภ.แห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายค้นต่อศาลจังหวัดพัทยา


ต่อมา พ.ต.อ.ธีรนนท์ แมนมงคล ผกก.กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ในสังกัด พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต 2 (ชป.TICAC 2) นำโดย พ.ต.ท.วิเชียร คำชมภู สว.ฯ ร่วมกับมูลนิธิ OUR Rescue และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กจังหวัดชลบุรี ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดพัทยา ที่ 63/2568 ลงวันที่ 10 เม.ย.68 เข้าตรวจค้นบ้านพักในอำเภอแห่งหนึ่ง ใน จ.ชลบุรี พบนายเบี้ยว (นามสมมติ) อายุ 52 ปี อยู่อาศัยภายในบ้านดังกล่าว
ผลการตรวจค้น พบของกลางจำนวน 1 รายการ เป็นโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Vivo จากการตรวจสอบข้อมูลภายใน พบสื่อลามกอนาจารเด็กชายทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวจำนวนหลายไฟล์ และยังพบบัญชีไลน์ที่นายเบี้ยว สร้างกลุ่มลับ ประกาศ รับสมาชิกเข้ากลุ่มลับเพื่อดูสื่อลามกอนาจารที่ตนเป็นผู้จัดหา โดยเรียกเก็บเงิน จากบุคคลที่สมัครเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบสื่อลามกอนาจารเด็กที่นายเบี้ยวผลิตเอง โดยยอมรับสารภาพว่า ตนได้ล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กชายอายุ 13 ปี โดยอ้างว่า ขณะล่วงละเมิดทางเพศ เด็กชายคนดังกล่าวได้บันทึกภาพการกระทำชำเราไว้ในโทรศัพท์มือถือของตนเอง โดยตนให้เงินเด็กเป็นค่าตอบแทน ต่อมา ตนเองได้ส่งภาพการล่วงละเมิดทางเพศต่อไปยังบุคคลที่ 3


จากการสืบสวนขยายผล พบเด็กผู้เสียหายที่ถูกล่วงละเมิดแล้ว จำนวน 1 ราย เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา “ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อประโยชน์ทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น” ในส่วนของข้อกล่าวหาอื่นๆ นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนปากคำผู้เกี่ยวข้องเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป ในส่วนเด็กผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกับบ้านพักเด็กจังหวัดชลบุรีเข้าพูดคุยกับผู้ปกครอง เพื่อคุ้มครองเยียวยาและนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมแก่ผู้ต้องหาตามกฎหมายต่อไป
เบื้องต้น ความผิดที่คาดว่านายเบี้ยวจะโดนดำเนินคดีได้แก่
1) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะอันลามก ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 14 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
2) ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287/1 ผู้ใดครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าผู้กระทำความผิดตามวรรคหนึ่งส่งต่อซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็กแก่ผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3) ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287/2 ผู้ใด
(1) เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก
(2) ประกอบการค้า หรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็ก จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชนหรือให้เช่าสื่อลามกอนาจารเด็ก
(3) เพื่อจะช่วยการทำให้แพร่หลาย หรือการค้าสื่อลามกอนาจารเด็กแล้ว โฆษณาหรือไขข่าวโดยประการใดๆ ว่ามีบุคคลกระทำการอันเป็นความผิดตามมาตรานี้ หรือโฆษณาหรือไขข่าวว่าสื่อลามกอนาจารเด็กดังกล่าวแล้วจะหาได้จากบุคคลใด หรือโดยวิธีใด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 6 หมื่นบาท
ถึง 2 แสนบาท