จับบ่อดินเถื่อน กลางหมู่บ้าน อ้างช่วยชาวบ้านจากน้ำท่วม
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปทส. ชุดปฏิบัติการ จว.เชียงใหม่
ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหา 2 ราย
1.นายณัฐวุฒิฯ อายุ 40 ปี
2.นายสมพรฯ อายุ 36 ปี

พร้อมตรวจยึดของกลาง
1.รถแบคโฮ ยี่ห้อ แคท พีซี 200 สีเหลือง ไม่ติดป้ายทะเบียน ขนาดกำลังเครื่องจักรกลต้นกำลัง 200 แรงม้า (สเปกตามรุ่น) อุปกรณ์ซึ่งมีไว้เป็นความผิดหรือได้ใช้ในการกระทำความผิด
2.รถบรรทุกส่วนบุคคลกระบะบรรทุกแบบยกดั้มได้ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว เชียงใหม่ บรรทุกหิน กรวด ทราย หรือดินขุด จำนวน 1 คัน

โดยกล่าวหาว่า
- ร่วมกัน ตั้งโรงงานจำพวกที่สามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
- ร่วมกัน ประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่สามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
พระราชบัญญัติขุดดินและถมดิน พ.ศ.2543 ฐาน - ร่วมกัน ทำการขุดดินโดยมีความลึกจากระดับพื้นดินเกินสามเมตรหรือมีพื้นที่ปากบ่อดินเกินหนึ่งหมื่นตารางเมตร หรือมีความลึกหรือพื้นที่ตามที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นประกาศกำหนดโดยไม่แจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปทส. เข้าบุกจับบ่อขุดดินเถื่อนกลางหมู่บ้าน หมู่ 2 ต.โป่งน้ำร้อน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ หลังชาวบ้านร้องเรียนได้รับความเดือดร้อนจากการขุด ตัก และลักลอบจำหน่ายดินโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุการณ์เริ่มต้นจากชาวบ้านหมู่ 2 ต.โป่งน้ำร้อน แจ้งว่ามีนายทุนลักลอบใช้รถแบคโฮ และรถบรรทุก ขุดดินออกจากลำห้วยแม่ใจ และที่ดินเอกชนเพื่อนำไปจำหน่ายให้บุคคลนอกพื้นที่ โดยไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ส่งผลให้ชุมชนได้รับความเดือดร้อนจากเสียงดัง ฝุ่นละออง และอุบัติเหตุบนถนนหมู่บ้าน

เจ้าหน้าที่เดินทางเข้าตรวจสอบ พบรถแบคโฮกำลังขุดดินใส่รถบรรทุกหกล้อ และไม่พบใบอนุญาตขุดดิน หรือป้ายแสดงเขตประกอบกิจการแต่อย่างใด ตรวจสอบภายในรถพบสมุดบันทึกรายการเที่ยวรถ บ่งชี้ถึงการดำเนินกิจการอย่างต่อเนื่อง
นายสมพรฯ อายุ 36 ปี คนขับรถบรรทุก ให้การรับสารภาพว่าเป็นลูกจ้างรายวันของนายณัฐวุฒิฯ อายุ 40 ปี เจ้าของรถแบคโฮและรถบรรทุก ซึ่งว่าจ้างให้ขุดและขนดินออกจากบ่อส่งตามคำสั่ง พร้อมพาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบจุดส่งดินซึ่งพบว่าถูกนำไปใช้ถมที่ก่อสร้างบ้าน
ด้านนายณัฐวุฒิฯ อ้างว่า ขุดดินเพราะความสงสารชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ไม่มีเจตนาจำหน่ายเพื่อการค้า แต่จากเอกสารพยานหลักฐานที่สามารถตรวจพบได้ต่าง ๆ เจ้าหน้าที่สรุปว่ามีเจตนาแสวงหาประโยชน์ โดยไม่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการโรงงานตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2562
เจ้าหน้าที่ได้ยึดรถแบคโฮและรถบรรทุกหกล้อเป็นของกลาง พร้อมดินที่ขนออกไป ซึ่งถือเป็นทรัพย์สิน ที่ได้มาจากการกระทำผิด ทั้งนี้จะดำเนินคดีในข้อหา “ตั้งโรงงานและประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต” และพิจารณาดำเนินคดีเพิ่มเติมตามความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง
ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการสะท้อนถึงปัญหาการลักลอบขุดดินที่ยังคงแพร่หลายในพื้นที่ชนบท และจำเป็นต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังเพื่อป้องกันความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมและความเป็นอยู่ของชุมชน สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพ