รวบ 2 ชาวกัมพูชา ลักลอบตัดไม้มะค่า ในป่าพนมดงรัก
นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 4 พฤษภาคม 2568 ชุดปฏิบัติการพิเศษจากศูนย์จัดการพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรักที่ 4 (ซำปิกา-ภูพะยอม) ร่วมกับกำลังจากกองร้อยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 224 ได้จับกุมชาวกัมพูชา 2 ราย ขณะลักลอบตัดไม้มะค่าโมงในเขตป่าอนุรักษ์
ผู้ต้องหาทั้งสองราย ได้แก่ นายเจียด อายุ 40 ปี และนายลิ อายุ 23 ปี ชาวบ้านปติแจะ ตำบลปติแจะ อำเภอตะเปียงปราสาท จังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ถูกจับกุมพร้อมของกลางเป็นไม้มะค่าโมงที่ถูกแปรรูปเป็นแผ่น จำนวน 4 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 0.111 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นมูลค่าความเสียหายต่อรัฐกว่า 7,770 บาท


เหตุเกิดบริเวณป่าทิศตะวันตกเฉียงใต้พนมอ้ายนาก (พลาญหมอก) ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก ซึ่งทับซ้อนกับป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าฝั่งขวาห้วยศาลา” ท้องที่ตำบลห้วยจันทร์ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ
สำหรับผู้ต้องหาทั้งสองรายถูกดำเนินคดีในหลายข้อหา ดังนี้
- ความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 “มาตรา 11 ฐานทำไม้หวงห้าม(มะค่าโมง)โดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 48 แปรรูปไม้(มะค่าโมง)โดยไม่ได้รับอนุญาต
- ผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 53 ฐาน “เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ มาตรา 55 (5) เก็บหานำออกไป กระทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายหรือทำให้เสื่อมสภาพ หรือทรัพยากรธรรมชาติอื่น หรือกระทำการอื่นใดส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศ หรือความหลากลายทางชีวภาพ
- ผิดพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ฐาน ”ทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต”
- ผิดพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่4) พ.ศ.2559 มาตรา 26/4 “ฐาน ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีกระทำด้วยประการใดๆโดยมิชอบด้วยกฎหมายอันเป็นการทำลายหรือเป็นเหตุให้เกิดการทำลายหรือทำให้สูญหายหรือเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติในเขตป่าสงวนแห่งชาติผู้นั้นมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายตามมูลค่าทั้งหมดของทรัพยากร ธรรมชาติที่ถูกทำลายสูญหายหรือเสียไปนั้น
- ผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 11 ฐานเป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่เข้าตามช่องทาง ด่านตรวจ เขตท่า สถานีที่กำหนดไว้


เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ขุนหาญ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังคงเฝ้าระวังการลักลอบตัดไม้บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างเข้มงวด