Home » สน.บางซื่อ ส่งสำนวนคดี ตึก สตง. ถล่ม กว่า 98,926 แผ่น ส่งให้อัยการฯ
Posted in

สน.บางซื่อ ส่งสำนวนคดี ตึก สตง. ถล่ม กว่า 98,926 แผ่น ส่งให้อัยการฯ

สน.บางซื่อ ส่งสำนวนคดี ตึก สตง. ถล่ม กว่า 98,926 แผ่น ส่งให้อัยการพิเศษฯ

(22 ก.ค. 68) พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ นำสำนวนคดีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. แห่งใหม่ พังถล่ม จำนวน 51 กล่อง 233 แฟ้ม 98,926 แผ่น ส่งให้อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก พิจารณาสั่งฟ้องผู้ต้องหา ทั้งนิติบุคคล และบุคคล รวม 23 ราย ในจำนวนนั้นมี นายเปรมชัย กรรณสูตประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในผู้ต้องหาในกลุ่มนี้ด้วย ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้อง

โดยมี พลตำรวจตรี นพศิลป์พูลสวัสดิ์ และพลตำรวจตรี สมควร พึ่งทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน มายื่นสำนวนด้วยตนเอง

พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ได้สรุปสำนวนคดีอาคารที่ทำการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ถล่ม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 13.10 น.ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหว โดยมีจุดศูนย์กลางที่ประเทศเมียนมาร์ แรงสั่นสะเทือนถึงประเทศไทยและในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ส่งผลให้อาคารก่อสร้างสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) บริเวณถนนกำแพงเพชร 2 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ได้ทรุดตัวถล่มลงมาทับซ้อนกัน

เป็นเหตุให้มีผู้รับบาดเจ็บสาหัสและมีผู้เสียชีวิตเป็นนวนมาก ตามคดีอาญาที่ 621/2568ของ สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ตามที่ปรากฎเป็นข่าวเผยแพร่ทราบกันทั่วไปแล้วนั้น

กองบัญชาตำรวจนครบาลโดย พลตำรวจโท สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้มีคำสั่งแต่งตั้งพนักงานสืบสวนสอบสวนที่ 192/2568 ลง 4 เมษายน 2568 โดยมี พลตำรวจตรี สมควร พึ่งทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน และ พลตำรวจตรี นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นรองหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อร่วมกันทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งปวง พิสูจน์ทราบสาเหตุของการเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ และดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามกฎหมายในทุกมิติ

จากการสืบสวนสอบสวนของคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ ได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ในฐานะนิติบุคคล 7 ราย และบุคคล 16 ราย รวม 23 ราย

ในข้อหา “เป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุมหรือทำการก่อสร้าง ซ่อมแซมหรือรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้นๆ โดยประการที่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตร 227, 238, 264, 268, 83, 91

โดยแบ่งกลุ่มผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องตามพฤติการณ์ในคดี 3 กลุ่มรวม 23 ราย ดังนี้

กลุ่มที่ 1 ผู้ออกแบบ 7 คน บริษัท ฟอ-รัม อาร์คิเทค จำกัด และ บริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด

  1. นายสุชาติฯ อายุ 64 ปี (นิติ,ส่วนตัว)
  2. นายพิมลฯ อายุ 85 ปี
  3. นายธีระฯ อายุ 59 ปี (นิติ,ส่วนตัว)
  4. นายสุพลฯ อายุ 51 ปี
  5. นายชัยณรงค์ฯ อายุ 43 ปี
  6. นายอภิชาติฯ อายุ 38 ปี
  7. นายวิศาลฯ อายุ 38 ปี

กลุ่มที่ 2 ผู้ควบคุมงาน 5 คน บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด, บริษัทเคพี คอนซัลแทนส์ แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด และ บริษัท ว.และสหาย คอนซัลแตนตส์ จำกัด

  1. นายปฏิวัติฯ อายุ 53 ปี (นิติ,ส่วนตัว)
  2. นายกฤตภัฏฯ อายุ 51 ปี (นิติ,ส่วนตัว)
  3. นายพลเดชฯ อายุ 56 ปี (นิติ,ส่วนตัว)
  4. นางปราณีตฯ อายุ 63 ปี (ฐานะนิติบุคคล)
  5. นายสมชายฯ อายุ 59 ปี

กลุ่มที่ 3 ผู้รับจ้างก่อสร้าง 6 คน บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์10 (ประเทศไทย) จำกัด

  1. นายเปรมชัยฯ อายุ 71 ปี (นิติ,ส่วนตัว)
  2. นางนิจพรฯ อายุ 73 ปี (ฐานะนิติบุคคล)
  3. นายชวนหลิงฯ อายุ 42 ปี (นิติ,ส่วนตัว)
  4. นายเกรียงศักดิ์ฯ อายุ 65 ปี
  5. นายอนุวัฒฯ อายุ 54 ปี
  6. นายธิปัตย์ฯ อายุ 43 ปี

คดีนี้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาครบถ้วนแล้ว และอยู่ระหว่างฝากขังผู้ต้องหาต่อศาลอาญา ครั้งที่ 6 จะครบกำหนดในวันที่ 26 กรกฏาคม 2568 ซึ่งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เชื่อมั่นในพยานหลักฐานเพื่อยืนยันการกระทำผิดผู้ต้องหาเนื่องจากได้ส่งวัตถุ และแบบแปลนไปให้สถาบันต่างๆ ตรวจพิสูจน์ ซึ่งได้มีผลการตรวจยืนยัน อาทิเช่น

1.การออกแบบและมีแก้ไขแปลนอาคารที่เกิดเหตุ ไม่เป็นไปตามหลักมาตรฐาน
2.ใช้วัสดุที่ต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ในแบบแปลน
3.ผู้ควบคุมงานที่ไม่ควบคุมดูแลการก่อสร้างให้เป็นไปตามแบบแปลน

โดยพบว่ามีการแอบอ้างชื่อวิศวกรมาเป็นผู้ควบคุมงานโดยผู้นั้นมิได้มาทำหน้าที่ควบคุมงานจริง เป็นต้น

ส่วนกรณีที่นายดำรง พุฒตาล และนางนารากร ติยายน แจ้งความให้ดำเนินคดีกับ นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่า สตง. คนปัจจุบัน และนายประจักษ์ บุญยัง อดีตผู้ว่า อดีตผู้ว่า สตง.นั้น ในข้อหา “กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายจำนวนมาก และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” นั้น คณะพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการส่งเรื่องให้ ปปช. พิจารณาแล้ว ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ ต่อไปแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า