วธ.เขมร ฟ้องยูเนสโก อ้างวัดภูม่านฟ้า เลียนแบบนครวัด
ในที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกของยูเนสโก ครั้งที่ 47 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 68 ตัวแทนจากประเทศกัมพูชา นำโดย รศ.ดร.เผือง ศักโคนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลป์ ได้นำเรื่องราวการก่อสร้างของวัดภูม่านฟ้า (สำนักสงฆ์พุทธศิลาภูม่านฟ้า) ใน จ.บุรีรัมย์ ขึ้นไปเล่าใส่สีตีไข่ ว่าทางวัดไปก่อสร้างลอกเลียนแบบนครวัด
โดยทางวัดภูม่านฟ้า ยืนยัน สถาปัตยกรรมแบบฮินดูไม่ได้เลียนแบบนครวัด ของกัมพูชา และขณะนี้ยังก่อสร้างไม่เสร็จ โดยมีมหาเจดีย์ อาคารวิหาร ตัวยักษ์ ตัวลิง ที่สร้างจากหินทราย
และนางเผืองฯ ก็เคยนำคณะมาดูเองด้วย เมื่อช่วงปลายเดือน พ.ค. 67 ก็กลับไปยืนยันกับทางรัฐบาลกัมพูชา ว่าไทยไม่ได้เลียนแบบแต่อย่างใด แต่กลายเป็นพลิกลิ้น นำเรื่องไปฟ้องยูเนสโกได้ ซึ่งคาดว่าคงกลัวถูกแย่งนักท่องเที่ยวไป
โดยเนื้อหาในเอกสารที่ยื่นยูเนสโกมีดังนี้
การประชุมคณะกรรมการมรดกโลกของยูเนสโก ครั้งที่ 47
ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
วันที่ 10 กรกฎาคม 2568
ท่านประธาน คณะกรรมการ และท่านสมาชิกทุกท่าน กัมพูชาขอขอบคุณทุกท่านสำหรับความมุ่งมั่นในการปกป้องมรดกโลก รวมถึงกลุ่มปราสาทนครวัด ซึ่งได้รับการจารึกไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 และเป็นสัญลักษณ์ของเอกลักษณ์ประจำชาติของเรา
วันนี้ เราขอแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อการก่อสร้างปราสาทนครวัดจำลองขนาดใหญ่ในจังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย โดยปราศจากการปรึกษาหารือหรือเคารพหลักจริยธรรมทางวัฒนธรรมของเรา
โครงการนี้บั่นทอนความสมบูรณ์ ความถูกต้องแท้จริง และคุณค่าอันโดดเด่นสากลของสถานที่แห่งนี้ แม้เราจะพยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่งานก็ยังคงดำเนินต่อไป สถานการณ์เช่นนี้อาจสร้างบรรทัดฐานที่อันตรายได้
เราขอให้ยูเนสโกและหน่วยงานที่ปรึกษาพิจารณาประเด็นนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน ขอขอบคุณทุกท่านที่รับฟัง