รวบตัวการ “แก๊งป่วยทิพย์” ยื่นเอกสารเท็จ เคลมเงินประกันโควิด กว่า 2 ล้านบาท
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุม นายณัฐจักรฯ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 100/2568 ลงวันที่ 8 มกราคม 2568
เพื่อดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง, ปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม, เรียกร้องผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัยโดยทุจริตหรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จในการเรียกร้อง”
สถานที่จับกุม ภายในบ้านพัก ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร
เนื่องด้วยประมาณเดือนมกราคม ปี 2564 บริษัทประกันภัยแห่งหนึ่งได้เข้าแจ้งความ ร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. กรณีตรวจสอบพบการทุจริตยื่นเอกสารปลอม แจ้งเคลมประกันภัย ขอรับค่าสินไหมทดแทนจากกรณีเจ็บป่วยจากโรคระบาดโควิด 19 เป็นเหตุให้ทางบริษัท ประกันหลงเชื่อว่าผู้กระทำความผิดมีอาการป่วยจริง จึงจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้ผ่านบัญชีธนาคาร ของผู้เอากรมธรรม์ เสียหายรวมกว่า 2 ล้านบาท
ภายหลังบริษัทประกันภัยได้สอบถามไปยังคลินิกทางการแพทย์ผู้ออกเอกสารใบรับรองแพทย์ พบว่าเป็นเอกสารปลอม จึงมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน
โดยก่อนหน้านี้ ช่วงเดือนกรกฎาคม 2567 กก.4 บก.ปอศ. ได้ปฏิบัติการระดมตรวจค้นจับกุมในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร, จ.ปราจีนบุรี, จ.สมุทรปราการ, จ.สมุทรสาคร จนสามารถจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีแล้ว จำนวน 23 ราย ซึ่งก็ได้มีการติดตามผู้ที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กกก.4 บก.ปอศ. ได้สืบสวนสอบสวนขยายผลจากกลุ่มผู้ต้องหา พบว่า นายณัฐจักรฯ ผู้ต้องหารายนี้ เป็นผู้ทำหน้าที่ชักชวนผู้ที่ทำประกันโควิด 19 ให้ยื่นเอกสารใบรับรองแพทย์ปลอม เพื่อนำไปเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน โดยเมื่อบริษัทประกันภัยจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้ ก็จะขอแบ่ง ผลประโยชน์รายละ 40-50 เปอร์เซ็นต์ของยอดเงินที่บริษัทประกันภัยจ่ายค่าสินไหม
ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าว ถือเป็นตัวการร่วมกันกระทำความผิด พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและยื่นคำร้องต่อศาล ขอออกหมายจับผู้ต้องหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมาวันที่ 7 กรกฎาคม 2568 เจ้าพนักงานตำรวจ กก.4 บก.ปอศ. สืบทราบว่า ผู้ต้องหาตามหมายจับรายนี้ ได้หลบหนีมากบดานอยู่ที่ย่าน อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร จึงได้นำกำลังเข้าจับกุมนายณัฐจักรฯ ผู้ต้องหา ได้ที่บ้านพัก ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร จึงได้จับกุมตัวนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการตรวจสอบ ประวัติคดีอาญา พบว่าผู้ต้องหาเคยมีประวัติต้องโทษในข้อหา มีอาวุธปืน ไม่มีทะเบียนและมีเครื่องกระสุนปืน และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ในท้องที่ต่างๆกว่า 8 คดี
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น นายณัฐจักรฯ ให้การรับสารภาพว่าตนกับพวก ได้ร่วมกันยื่นเอกสารเท็จ เพื่อเรียกร้องผลประโยชน์จากบริษัทประกันภัย
โดยมีการแบ่งหน้าที่กัน มีผู้คอยชักชวนคนใกล้ชิดที่ทำประกันโควิด เมื่อมีผู้สนใจก็จะให้ยื่นเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน โดยยื่นเอกสารสำเนาบัตรประชาชน หน้าสมุดบัญชีธนาคาร และเอกสารใบรับรองแพทย์ปลอมที่จัดเตรียมไว้ เมื่อบริษัทประกันภัยจ่ายค่าสินไหมทดแทน จะนำเงินมาแบ่งผลประโยชน์กันตามที่ตกลงกันไว้