Home » รวบบอสใหญ่เพจปล่อยกู้ปลอม หลอกโอนมัดจำกว่า 18 ล้าน
Posted in

รวบบอสใหญ่เพจปล่อยกู้ปลอม หลอกโอนมัดจำกว่า 18 ล้าน

รวบบอสใหญ่เพจปล่อยกู้ปลอม หลอกโอนมัดจำกว่า 18 ล้าน

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง กก.5 บก.ปอศ.

ร่วมกันจับกุม นายดำรงค์ฯ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 3722/2566 ลงวันที่ 31 ตุลาคม 2566 และผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 3723/2566 ลงวันที่ 31 ตุลาคม 2566

โดยกล่าวหากระทำผิดฐาน

  • ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
  • ร่วมกันนำเข้าในระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงอันเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติ มีส่วนร่วมกระทำการใดๆ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมในกิจกรรมหรือโดยรู้ถึงเจตนาที่จะกระทำความผิดร้ายแรงขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

สถานที่จับกุม บริเวณหน้าล็อบบี้โรงแรมแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตลาดพร้าวกรุงเทพมหานคร

เนื่องด้วยเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2564 น.ส.เอ นามสมมุติ กับพวกรวม 3 ราย ผู้เสียหายได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับนายดำรงค์ฯ กับพวก จากกรณีมีผู้ตั้งเพจเฟซบุ๊กชื่อ “สินเชื่อเงินกู้ด่วน 1” โพสต์ข้อความโฆษณาชักชวนให้ประชาชนกู้ยืมเงินผ่านช่องทางออนไลน์ เมื่อผู้เสียหายสนใจกู้เงิน ผู้ต้องหาจะให้ผู้เสียหายโอนเงินเป็นค่าดำเนินการเอกสาร 325 บาท และต้องจ่ายมัดจำก่อนกู้ ในกรณีผู้เสียหายกู้ 5,000 บาท ต้องจ่ายมัดจำ 400 บาท ผู้เสียหายกู้ 10,000 บาท ต้องจ่ายมัดจำ 700 บาท หลังจากทำการโอนไปแล้ว ผู้เสียหายไม่ได้รับเงินกู้จาก “สินเชื่อเงินกู้ด่วน1” แต่อย่างใด

จากการสืบสวนพบว่าพฤติกรรมของผู้ต้องหาได้มีการร่วมกับพวกรวม 10 คน โดยลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำในลักษณะเปิดบัญชีรองรับการโอนเงินที่ได้จากการกระทำความผิดจากจำนวนหลายคนหลายบัญชีจนกระทั่งโอนเงินไปถึงบัญชีผู้รับผลประโยชน์ โดยนายดำรงค์ฯ ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นผู้รับผลประโยชน์ได้เปิดบัญชีธนาคารชื่อ SAI SOM KHIT สัญชาติเมียนมาร์ และบัญชีชื่อนายดำรงค์ฯ ในการรับเงินจากการกระทำความผิดเป็นเงินรวม 18 ล้านบาทเศษ

โดยมีการกระทำในลักษณะเป็นเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่ใช้พื้นที่บริเวณชายแดนเพื่อนบ้านของประเทศไทยก่ออาชญากรรมทางเศรษฐกิจอันเป็นความผิดตั้งแต่สามคนขึ้นไปที่รวมตัวกันช่วงระยะเวลาหนึ่งและร่วมกันกระทำการใด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงและเพื่อได้มาซึ่งผลประโยชน์ทางการเงิน ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์ทางวัตถุอย่างอื่น ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม ซึ่งนายดำรงฯ ได้หลบหนีการจับกุมเรื่อยมา

จนกระทั่งเจ้าหน้าตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. ได้สืบทราบว่านายดำรงฯ ผู้ต้องหา เป็นบุคคลสัญชาติไทย แต่ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยโดยใช้หนังสือเดินทางประเทศเมียนมาร์ ในชื่อ SAI SOM KHIT ซึ่งเป็นชื่อเดียวกันกับบัญชีที่ใช้รับผลประโยชน์ จึงได้ทำการติดตามตัว จนกระทั่งพบว่าผู้ต้องหาได้มาอยู่บริเวณหน้าล็อบบี้โรงแรมแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร จึงได้ทำการแสดงหมายจับ พร้อมกับจับกุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าไม่ทราบว่าเงินได้รับมาจากทั้งสองบัญชีที่ที่มาจากทางใดบ้าง ส่วนสาเหตุที่มีสองสัญชาติเนื่องจาก นายดำรงฯ เคยไปศึกษาที่ประเทศเมียนมาร์ จึงได้มีหนังสือเดินทางประเทศเมียนมาร์อีก 1 เล่ม

หมายเหตุ : ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า